องค์พญาศรีมุกดามหามุนีนีลปาลนาคราช เรียกอีกชื่อว่า “ปู่ศรีมุกดา” พญานาคที่ถูกปั้นขึ้นขนาดใหญ่สวยงามตั้งอยู่บนภูเขาสูง ลำตัวของพญานาคนอนขดตัวไปมาและชูลำคอสูงสง่าหันไปทางแม่น้ำโขง มีสีน้ำเงินฟ้าสะท้อนสีเขียวงดงามลวดลายละเอียดวิจิตรแฝงด้วยความน่าเกรงขาม การค้นคว้าข้อมูลจากแหล่งสืบค้นพบอีกว่า การก่อสร้างพระใหญ่ได้มีการบวงสรวงและอัญเชิญองค์พญานาคจากแม่น้ำโขงขึ้นมาประดิษฐานบนภูมะโนรมย์ พญานาคเมืองมุกดาหารได้ขึ้นชื่อว่าเป็น “เมืองพญานาค 3 พิภพ” ได้แก่ ภพดิน ภพน้ำ และภพฟ้า ซึ่งองค์พญาศรีมุกดามหามุนีนีลปาลนาคราชถือเป็นพญานาคภพฟ้า เนื่องจากพระที่อาศัยอยู่วัดภูมะโนรมย์พบเห็นงูจงอางใหญ่ แต่ถ้าจะสร้างเป็นสีดำเกรงว่าจะไม่สวยจึงสร้างเป็นสีฟ้า เลื้อยขดตัวไปมายาวถึง 122 เมตร ซึ่ง ลุงลาย เล่าฟ้าขณะที่ไปทำสวนได้ยินเสียงปะทะชนกันบนท้องฟ้าและวิ่งลงมายังพื้นเป็นเส้นทางกลางป่าเป็นภาพปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้นพร้อมกับเสียงที่กำลังพุ่งลงมาพังกิ่งไม้ ลักษณะที่พบเป็นพญานาคขนาดยาวประมาณ 40 เมตร ขึ้นมาสักการะรายพระพุทธบาทและมุดลงดินไปแม่น้ำโขง
พระมหาอำนาจ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดรอยพระพุทธบาทภูมะโนรมย์ กล่าวถึง ผ้าสีแดงที่ผูกในต้นไม้ คือ กุศโลบายให้พญานาคและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ปกป้องคุ้มครอง องค์พญาศรีมุกดามหามุนีนีลปาลนาคราช เป็นพญานาคที่มีความยาวที่สุดในประเทศไทย เหตุที่ได้สร้างมี 4 ประการ คือ ตำนาน ความเชื่อเกี่ยวกับลุ่มแม่น้ำโขงและพญานาค ปณิธานแน่วแน่ที่ต้องการสร้างองค์พญานาคให้คนมาขอพร และวิจิตรศิลป์ที่มีความสวยงดงาม เป็นสมบัติของชาติและของศาสนา บนภูมะโนรมย์มีแอ่งน้ำที่ชาวบ้านมาตักไปใช้ประโยชน์ ครั้งหนึ่งของการขึ้นมาตักน้ำพบว่ามีงูใหญ่อาศัยอยู่ใน “ถ้ำมะเขือเถื่อน” พญานาคเคยจำแลงกายมาขอบวชกับหลวงตายอดแต่หลวงตายอดบวชพระให้ได้ จึงให้บาตรและผ้าไตรจีวร แต่บวนเป็นสามเณรให้และตั้งชื่อว่า “สามเณรเนาะ” ต่อมาภายหลังจึงมีการสร้างองค์พญานาค เพื่อสื่อเป็นเชิงสัญลักษณ์ว่า แม้บนสวรรค์ชั้นดาวดึงองค์นาคราชผู้ทรงฤทธิ์ก็เป็นผู้ปกป้องพระพุทธเจ้า
องค์พญาศรีมุกดามหามุนีนีลปาลนาคราช
“พญาศรีมุกดามหามุนีนีลปาลนาคราช” พญานาคภพฟ้า (สวรรค์พิภพ) พบว่า แฟนเพจเฟซบุ๊ก วัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์ อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร ได้โพสต์ภาพ พญาศรีมุกดามหามุนีนีลปาลนาคราช หรือ ปู่ศรีมุกดา พญานาคองค์ใหญ่ยักษ์สวยงาม เกล็ดสีคล้ายปีกแมลงทับ ซึ่งเชื่อว่าในอนาคตจะกลายเป็นแลนด์มาร์กใหม่ของมุกดาหาร ที่มีประชาชนที่ศรัทธาพากันมากราบไหว้ขอพร พระเจ้าใหญ่แก้วมุกดาศรีไตรรัตน์ รวมถึงปู่ศรีมุกดา และถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกันเป็นจำนวนมาก เนื่องจากว่าอยู่บนเนินเขาสูงก็จะสามารถมองออกมาเห็นวิวทิวทัศน์เบื้องล่างได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งตรงบริเวณนี้อยู่ใกล้กับแม่น้ำโขงดังนั้นเมื่อมองออกมาก็จะเห็นวิวของแม่น้ำโขงและสามารถมองเห็นวิวเลยไปยังฝั่งลาวได้อีกด้วย ตรงจุดชมวิวตรงนี้จะมองเห็นสะพานมิตรภาพไทยลาวและที่สำคัญสถานที่ในพื้นที่ของวัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์แห่งนี้ได้มีการจำลองรูปปั้นพญานาคโดยมีการสร้างเป็นสีเขียวอมฟ้าเมื่อแสงแดดส่องลงมากระทบกับแสงแดดก็จะมีการสะท้อนส่องแสงแวววาวสวยงามจับตาเลยทีเดียวพญานาคองค์นี้มีความยาวถึง 122 เมตรถูกสร้างขึ้นมาด้วยความสูงถึง 20 เมตรด้วยกันขนาดลำตัวมีความกว้างถึง 1.5 เมตรแล้วที่สำคัญพญานาคองค์นี้ถูกสร้างมาด้วยลักษณะของการขดตัวไปมาพร้อมทั้งชูคอสูงขึ้นโดยมีการหันหน้าออกไปยังไม่น้ำโขง เรียกได้ว่าแค่มาเที่ยวที่วัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์คุณจะได้ทั้งไหว้พระขอพรและได้ถ่ายรูปกับวิวสวยๆ ที่สำคัญจะได้สัมผัสกับบรรยากาศ สดชื่นเนื่องจากว่าพื้นที่บริเวณโดยรอบของวัดนั้น จะมีต้นไม้เป็นจำนวนมากซึ่งเป็นต้นไม้ขนาดใหญ่ขึ้นเขียวขจีเต็มไปหมดและบริเวณโดยรอบไกลสุดลูกหูลูกตาก็ยังเป็นต้นไม้และภูเขาทำให้บริเวณนี้ถือว่าเป็นโซนที่เป็นจุดที่มีอากาศบริสุทธิ์เป็นอย่างมากเลยทีเดียวเหมาะอย่างยิ่งกับการมาท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ คติความเชื่อ คือ “เจริญรุ่งเรือง เติบโต เลื่อนตำแหน่ง”
ผ้าแดงเขียนชื่อและคำขอต่าง ๆ ผูกไว้กับกิ่งไม้
องค์พญาศรีมุกดามหามุนีนีลปาลนาคราช ลักษณะของพญานาคนั้นจะนอนขดตัวไปมาและชูลำคอสูงสง่าหันไปทางแม่น้ำโขงเบื้องล่าง ลำตัวยาว 122 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลาง 1.50 เมตร สูงประมาณ 20 เมตร ความเชื่อด้านความโชคดี สุขภาพ ความปลอดภัย ร่ำรวยเงิน
คำกล่าวบูชาพญานาคศรีมุกดามหามุนีนีลปาลนาคราช
มีคำกล่าวบูชาพญานาคศรีมุกดามหามุนีนีลปาลนาคราช ข้อความว่า “ข้าพเจ้าขอไหว้บูชา องค์พญานีลปาลนาคราช ผู้ถวายการอภิบาลพระมหามุนีพุทธเจ้าพระนามว่าแก้วมุกดาศรีไตรรัตน์ ผู้มีอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ มีเดชอำนาจ มีพละกำลัง ด้ายกาย วาจา ใจ ขอให้มีความสำเร็จแห่งหน้าที่ การงาน ลาภสักการะ ความชำนะทั้งมวล จงสำเร็จแก่ข้าพเจ้าในกาลทุกเมื่อเทอญ” (สร้างถวายโดย นาวิชาญ นางกนกพร เด็กหญิงวิชญาพร วาปี พร้อมครอบครัว)
พญานาคศรีมุกดามหามุนีนีลปาลนาคราช