... ความเชื่อ

... ค้นหา
Menu
... หน้าหลัก
... พญานาค
... ท่องเที่ยว
... พลวัต
... ข่าว/ประชาสัมพันธ์
... ความเชื่อ
... ค้นหา

... พญานาคเรืองแสงแห่ง “เมืองลับแล” ภูปัง

เรื่องเล่าและคติชน (Narrative and Folklore)

พระเทพมงคลญาณ วิ. (สนธิ์ อนาลโย) มีนิมิตเห็นภูเขาที่สงบและได้เดินทางมาพบเห็นที่จังหวัดอุบลราชธานี ชาวบ้านยินดีกราบไหว้และขอให้อยู่ที่ภูปัง ชาวบ้านเล่าว่า “บ่อยครั้งที่พระธุดงค์มาพำนักที่นี่แต่ไม่มีรูปไหนเลยที่อยู่ได้ บางรูปกลับออกไปเฉย ๆ แม้ชาวบ้านจะนิมนให้อยู่ต่อก็ตาม” ขณะที่ชาวบ้านและหลวงพ่อมีความตั้งใจสร้างวัดขึ้น จากนั้นวัดได้สร้างขึ้นและพัฒนาเรื่อยมา และมีการปั้นรูปพญานาคขึ้น โดยปู่ก่ำ บอกว่า องค์หนึ่ง “ปู่พญาโคตมะนาคราช” มีเครื่องทรงประจำองค์สีเงิน องค์สอง “ปู่พญาอนันตะนาคราช” มีเครื่องทรงประจำองค์สีทอง และองค์สาม “ปู่พญานันจันทวานาคราช” มีเครื่องทรงประจำองค์สีเขียวมรกตทั้งสามองค์นี้เป็นพี่น้องกัน เป็นเจ้าเมืองบาดาลปากกะดิ่ง เมืองหลวงของเหล่าพญานาคอายุอยู่ในภพภูมิพญานาค ยังไม่ได้มาเกิดเป็นมนุษย์ เพราะต้องปฏิบัติภาวนาสร้างบารมีอยู่ในเมืองบาดาล ยังไม่สามารถเป็นพระอรหันต์หรือไปนิพพานได้ มีอย่างเดียวคือภาวนาอธิษฐานให้ตัวเองเกิดมาเป็นมนุษย์จึงจะได้ปฏิบัติอย่างสมบูรณ์ พญานาคทั้งสามต้องอยู่ในภพภูมินี้ด้วยยังไม่ถึงเวลา ขณะที่พญานาคทั้งสามได้ลืมตามองด้วยสายตายิ้ม ดูมีเมตตา และบอกกล่าวว่า พญานาคไม่ได้เบียดเบียนใคร อยู่กันแบบหลายเผ่าพันธุ์ พญานาคอย่างท่านนั้นถือศีล ถ้าเปรียบกับโลกมนุษย์ก็เหมือนกับพระสงฆ์ ส่วนพญานาคอื่นๆ ต่างทำมาหากินกันไป มีทั้งพญานาคดีและไม่ดี เหมือนกับคนเช่นกัน



พญานาค 3 องค์ที่วัดป่าภูปัง


พระครูวิมล ปัทมนันท์ กล่าวว่า “ผู้เฒ่าผู้แก่บอกเล่าถึงความเชื่อมโยงระหว่างภูปังกับถ้ำปาฏิหาริย์ และพญานาคมีทั้งในน้ำและบนภูเขา ตั้งแต่มาอยู่ที่วัดแห่งนี้เคยขึ้นไปนั่งด้านบนภูปังและได้ยินเสียงแปลกประหลาดจึงหันไปดูว่าเสียงอะไร พอหันไปดูและพบว่าเป็นเหมือนงูจงอางสีเขียวกำลังแผ่แม่เบี้ย ได้ยินเหมือนเสียงกำลังร้องเรียกจึงแผ่เมตตาและได้ถ่ายรูปลงมาให้ชาวบ้านดูพบว่าเป็นงูจงอาง ชาวบ้านเอาพระนาคปรกมาให้” ภูปังในเรื่องเล่าของชาวบ้านเป็นพื้นที่ลี้ลับที่มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ดูแลสถานที่ คือ “ปู่ก่ำ” และชาวเมืองบังบดที่ดูแลพื้นที่ภูปัง ชาวบ้านเชื่อสนิทใจว่าดินแดนแห่งนี้เป็นเมืองบังบดในอีกมิติหนึ่ง จะพบมิตินั้นได้หรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับวาสนาของคนที่มาเยือน และชาวบังบดจะมาใส่บาตรกับพระที่ปฏิบัติดี และผู้ปฏิบัติธรรมจะมีโอกาสได้เห็นดินแดนเมืองบาดาลและเมืองบังบด ขณะที่ชาวบ้านเชื่อว่าภูปังเป็นพื้นที่ประชุมของเหล่าเทวดา เนื่องจากเคยมีคนเห็นดวงแก้วยามค่ำคืน หรือ “ปรากฏการณ์แก้วเสด็จ” ซึ่งบางคนเชื่อว่าเป็นดวงจิตของพญานาค นอกขากนั้นบนภูปังยังมีบ่อน้ำในร่องน้ำภูปังที่เชื่อว่าเป็นบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นที่อยู่ของพญานาค และการสร้างวัดป่าภูปังยังมีความเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกับพญานาค

พระครูวิมลปัทมนันท์ เจ้าอาวาสวัดป่าภูปัง เล่าอีกว่า ประวัติความเป็นมาขององค์ปู่พญานาคในช่วงที่สร้างวัดป่าภูปังใหม่ๆ พระเทพมงคลญาณหรือหลวงพ่อสนธิ์เจ้าอาวาสวัดพุทธบูชา กรุงเทพมหานคร จะมาที่วัดบ่อยครั้ง ครั้งหนึ่งหลวงพ่อได้ชวนน้าพราหมณ์ (โยมที่ช่วยหลวงพ่อสร้างวัดแต่แรกเริ่ม) เดินขึ้นไปบนเขา เพื่อสำรวจดูว่าจะให้พระ-เณร ขึ้นมาปัดกวาดที่ใดได้บ้าง น้าพราหมณ์จึงเดินตามหลังหลวงพ่อไป แล้วพบร่องรอยเหมือนรอยงูเลื้อยผ่านไปใหม่ ๆ เพราะยังมีเมือกอยู่ หลวงพ่อจึงพาเดินตามรอยนี้ไปเรื่อยๆ ผ่านไปตามดงหญ้าแห้งๆ ยิ่งเห็นชัดว่าเป็นรอยงูแต่ว่าคงจะตัวใหญ่มาก เพราะรอยนั้นโล่งคล้ายทางคนเดิน น้าพราหมณ์จึงเดินไปบนรอยนี้เพราะเดินง่ายกว่า ไม่ต้องลุยพงหญ้า แต่หลวงพ่อห้ามไม่ให้เหยียบ แล้วท่านถามขึ้นว่าปู่พญานาคมาหาบ้างไหม ปู่ก่ำ (ปู่ผ้าขาว) ไม่พาไปเมืองบาดาลหรอกหรือ พอลงมาจากเขาหลวงพ่อยังถามย้ำอีกว่าปีนี้ปู่ก่ำพาไปทำบั้งไฟถวายปู่พญานาคที่ปากกะดิงไหม (ปากกะดิงอยู่ใน สปป.ลาว บริเวณสะดือแม่น้ำโขง อยู่ตรงข้ามแก่งอาฮง วัดอาฮงศิลาวาส จังหวัดบึงกาฬ) พอดีมีโยมเดินมาเสียก่อน หลวงพ่อจึงหยุดสนทนาแล้วหันไปถามไถ่สารทุกข์สุกดิบกับคุณโยมแทน


เชิงสัญลักษณ์ (Symbolic)

ชาวบ้านเชื่อว่าถ้าทำบุญแล้วอยากให้ถึงปู่พญานาคก็ให้นำผ้าเจ็ดสี จุดธูปเจ็ดดอก และเทียนสองเล่ม ยกขึ้นอธิษฐานว่าจะให้ท่านช่วยเรื่องอะไร แล้วค่อยปล่อยลงน้ำ ไม่ว่าจะเป็นแหล่งน้ำที่ไหนก็ตาม ถ้าไหลลงแม่น้ำโขงหรือมหาสมุทรก็จะถึงหมดซึ่งแม้ว่าบุญบารมีของปู่พญานาคอาจไม่สามารถเนรมิตได้ทุกอย่างตามประสงค์แต่ท่านก็อยากช่วยเหลือเพื่อจะได้เพิ่มพูนบารมี การลงพื้นที่ภาคสนาม พบว่า พญานาควัดป่าภูปัง มีสีสันต์สดใสและคุณสมบัติของสีที่ใช้แตกต่างจากพญานาคที่อื่นคือสามารถเรืองแสงได้ พญานาคทั้งสามเครื่องทรงแตกต่าง คือ สีเงิน สีทอง และสีเขียวมรกต นอกจากนั้น พบอีกว่า ผู้คนที่เดินทางมาที่วัดป่าภูปังมีทุกเพศทุกวัย เมื่อเดินทางมาถึงจะไหว้ขอพรกับพญานาคทั้ง 3 องค์ คือ ปู่พญาโคตรมะนาคราช ปู่พญาอนันตะนาคราช และปู่พญานันจันทวานาคราช ด้วยดอกไม้ ธูป และเทียน ฯลฯ



ผ้าเจ็ดสีถูกมัดในวัสดุที่มีลักษณะคล้ายเศียรของพญานาค


คาถา บทสวด และคำบูชา

ป้ายเขียนคำบูชาปู่พญานาคราชซึ่งรวมอยู่ในแผ่นเดียวกัน สามารถกล่าวบูชาพญานาคทั้ง 3 องค์พร้อมกัน ข้อความว่า “ข้าพเจ้านี้มีจิตศรัทธาเลื่อมใส ขอบูชาพญาโคตรมานาคราช พญาอนันตนาคราช และพญาจันทวานาคราช ผู้เป็นราชาธิบดีแห่งนาค มีฤทธิ์มาก มีเดชและอานุภาพมากด้วยกาย วาจา และใจ…ด้วยอานุภาพแห่งการบูชานี้ ขอความสำเร็จด้านกิจการ การงาน โชคลาภ ชัยชนะจงมีแก่ข้าพเจ้า…ขอความสวัสดิ์ดีจงมีแก่ข้าพเจ้าในการทุกเมื่อเทอญฯ” จะเห็นว่า การไหวบูชาพญานาคที่วัดป่าภูปัง ยกย่องให้พญานาคมีฐานะเป็น “ปู่” มีตำแหน่งเป็นราชาธิบดีแห่งพญานาค มีฤทธิ์เดชมาก การขอพรจากปู่พญานาคมีเป้าหมายเพื่อความสำเร็จด้านกิจการต่างๆ หน้าที่การงาน โชคลาภต่างๆ และการได้รับชัยชนะจากการต่อสู้ เช่น คดีความ หรือการเอาชนะศัตรู เป็นต้น



คำบูชาปู่นาคราช


Tags
ความรัก
การเงิน
การงาน
โชคลาภ
สุขภาพ
ความอุดมสมบูรณ์

... สถานที่

...

วัดป่าภูปัง

  วัดป่าภูปัง ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านพะเนียด ตำบลหนามแท่ง อำเภอศรีเมืองใหม่ จังหวัดอุบลราชธานี

อ่าน

...
กษมา ดอกดวง
(หัวหน้าโครงการ) Tel. 0942634259 [email protected]
...
ปิยวัฒน์ อัฒจักร
(ผู้ร่วมวิจัย)
...
สิริวรัญญา เลิศสกุลรุ่งเรือง
(ผู้ร่วมวิจัย)
...
ดร.บุญมี โททำ
(ผู้ร่วมวิจัย)
...
พงษ์เทพ บุญกล้า
(ผู้ช่วยภาคสนาม)
...
สถานบันวิจัยและพัฒนา
มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี Facebook