... ความเชื่อ

... ค้นหา
Menu
... หน้าหลัก
... พญานาค
... ท่องเที่ยว
... พลวัต
... ข่าว/ประชาสัมพันธ์
... ความเชื่อ
... ค้นหา

... “พ่อปู่ศรีสุทโธนาคราช” เมืองบาดาลเชื่อมโยงสองฝั่งโขง

เรื่องเล่าและคติชน (Narrative and Folklore)

วัดถ้ำปาฏิหาริย์ ตามตำนานเล่าว่าคือ “เมืองลับแล” หรือ “เมืองบังบด” ตามประวัติของหลวงปู่คำคะนิง จุลมณี (วัดถ้ำคูหาสวรรค์) หลวงปู่ท่านได้กล่าวถึงถ้ำมืดแห่งนี้ว่าเป็นทางเชื่อมต่อระหว่างเมืองมนุษย์และเมืองบาดาล (เมืองของเหล่าพญานาค) เป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์มีเจ้าปู่เป็นผู้ดูแลปกปักรักษาสถานที่แห่งนี้ และยังมีความเชื่ออีกว่า ถ้ำแห่งนี้สามารถเดินทะลุไปถึงแม่น้ำโขงอีกฝั่งหนึ่ง คือ แก่งสี่พันดอน สปป.ลาว โดยบรรยากาศภายในบริเวณถ้ำ มีบันไดนาคทอดยาวลงไปภายในถ้ำ อากาศในถ้ำจะเย็นอยู่ตลอด หากเป็นหน้าฝนจะมีน้ำหยดลงมาจากบนผนังถ้ำ เมื่อเดินพ้นบันไดนาคจะพบกับห้องโถงขนาดใหญ่ ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปปางต่างๆ เพื่อให้ผู้ที่เดินทางมาได้กราบไหว้สักการะเพื่อความเป็นสิริมงคล สมัยก่อนในถ้ำแห่งนี้มีขอนไม้ขนาดใหญ่ (ประมาณ 3 คนโอบ) อยู่ท่อนหนึ่ง แต่ปัจจุบันเมื่อถ้ำแห่งนี้ถูกค้นพบและมีผู้คนเดินทางมาเป็นจำนวนมากขอนไม้นั้นก็ได้หายออกจากถ้ำไปเอง นอกจากนั้น มีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ตามจุดต่างๆ บริเวณวัด รายล้อมด้วยธรรมชาติ และมีกล้วยไม้ป่าเกิดขึ้นทั่วบริเวณวัดและตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติผาแต้ม สถานที่ปฏิบัติธรรมที่มีถ้ำอยู่ภายในวัดและตั้งอยู่ใกล้กับเขตป่าดงนาทาม ในเขตอำเภอโขงเจียม ในบริเวณวัดถ้ำเป็นลานหินกว้างบนยอดเขา มีเจดีย์สีทององค์ใหญ่มองเห็นแต่ไกล องค์พระปฏิมาสีทองอร่าม ตั้งอยู่กลางป่าที่ห้อมล้อมด้วยต้นไม้น้อยใหญ่โดยรอบ บริเวณปากถ้ำมีต้นไทรใหญ่ขึ้นปกคลุมจะมีบันไดพญานาคทางเดินลงสู่โถงถ้ำอันมืดมิดสามารถเข้าไปเที่ยวชมและกราบองค์พระภายในได้


ป้ายบอกเวลาเข้าเยี่ยมชมถ้ำปาฏิหาริย์แห่งเมืองลับแล


เชื่อว่าหากใครได้สร้างบุญสร้างกุศลสัมพันธ์กับพญานาค "พ่อปู่ศรีสุทโธนาคราช" จะโชคดีมีแต่สิ่งดีเกิดขึ้นและเป็นบุญครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิต "ถ้ำมืด" หรือ “ถ้ำปาฏิหาริย์” วัดถ้ำปาฏิหาริย์ เป็นทางเชื่อมต่อระหว่างเมืองมนุษย์กับเมืองบาดาล (เมืองพญานาค) เป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์มีเจ้าปู่เป็นผู้ดูแลปกปักรักษาและยังมีความเชื่อว่าถ้ำแห่งนี้สามารถเดินทะลุไปยังอีกฝั่งของแม่น้ำโขงด้านประเทศสปป.ลาวได้ บริเวณที่เป็นหางของพญานาคเป็นโพลงน้ำขนาดใหญ่ ได้ยินเสียงคลื่นน้ำเป็นระลอกแต่มืดมากจนมองไม่เห็นอะไร เล่ากันว่าเป็นตาน้ำศักดิ์สิทธิ์ และมีตำนานเก่าแก่ล่ำลือกันมาช้านานว่าถ้ำปาฏิหาริย์มีเส้นทางลี้ลับที่เชื่อมต่อจากเมืองมนุษย์สู่เมืองบาดาลผ่านทางประตูวังพญานาค เป็นทางเดินลอดใต้แม่น้ำโขงข้ามไปฝั่ง สปป.ลาว


ทางเดินเข้าไปในถ้ำปาฏิหาริย์มีรูปปั้นพญานาคเกล็ดสีแดงเขียวตลอดราวบันได


หลวงปู่คำคะนิง จุลมณี ได้มานั่งสมาธิและพบว่ามีดวงไฟบริเวณผนังถ้ำ และเป็นประตูเชื่อมลงไปเมืองบาดาล ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่เจ้าปู่เป็นคนดูแลที่แห่งนั้น และเชื่อมยาวไปถึงแก่งสีพันดอนใน สปป.ลาว คำบอกเล่าของชาวบ้าน “องค์ทาวเทพพนม” คือผู้ดูแล “เมืองทิพย์” บริเวณนี้ ขณะที่น้ำในถ้ำถือเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านนำไปประกอบพิธีกรรมและนำน้ำไปทำน้ำมนต์ บริเวณถ้ำแห่งนี้ถูกยกย่องให้เป็นทางขึ้นลงของพญานาคที่เดินทางขึ้นมาโลกมนุษย์ ในถ้ำจะมีน้ำไหลตลอดทั้งปี การลงไปในถ้ำจะต้องมีเชือกดึงลงไปด้วย เมื่อเดินลงไปในถ้ำจะพบกับปลาดุกสีทอง และภายในมีฝูงค้างคาวจำนวนหลักหมื่นตัว ภายในเป็นอุโมงค์สูงใหญ่และมีพื้นทรายภายใน การเดินทางลงไปในถ้ำจะต้องใช้เทียนเพื่อให้มีแสงสว่าง จันทร์ (2565) อายุ 51 ปี กล่าวว่า “มาครั้งแรกตอนอายุ 17 สมัยนั้นยังเป็นทางเท้า เป็นป่า มีหลวงพ่อ คุณย่าอยู่ดูแลที่ถ้ำ มานึกถึงว่าอยากจะมาอีกครั้งหนึ่ง และเคยดูใน YouTube แล้วอยากมา พอมาก็เห็นความแตกต่าง แต่ก่อนเป็นโขดหิน มีไม้ไผ่ แต่พอมาเห็นครั้งนี้ใหญ่มาก จากแต่ก่อนเดินแค่นิดเดียว แต่ครั้งนี้เดินไกลมาก แต่ก่อนมีพระ แต่ตอนนี้ไม่มี ถ้าอ่านประวัติ หลวงปูคำคะนิงเคยมาปฏิบัติแล้วไปที่อื่น เป็นคำบอกเล่า ตอนนี้อายุ 51 ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ส่วนใหญ่มากราบไหว้ขอพร คนพูดว่า ‘เป็นเมืองลับแล เป็นเมืองมหัศจรรย์’ อยากจะมาเห็นมาสัมผัส บางคนมาบวชถือศีล ถ้าเป็นความเชื่อที่นี่ศักดิ์สิทธิ์มาก ตอนแรกอยากจะมาบวชแต่จิตตัวเองยังไม่สงบ ครั้งหน้าอาจจะมาบวช ตอนนั้นยังลังเลว่าสะดวกไหม มีห้องให้พักได้ คนที่มาบวชจะอยู่ 3 5 7 9 ตามเลขคี่ เคยได้ยินคำบอกเล่าว่า สมัยก่อนบอกว่าถ้าเดินเข้ามาจะเห็นบ่อปลาดุกยักษ์ ถ้าจะเดินทะลุไปฝั่งลาว มีคนเล่าว่าถ้าเข้าไปเพื่ออยากดูจริงๆ คนส่วนใหญ่จะไม่ค่อยกล้า คนที่เดินไปลึกกว่านี้จะได้ยินแม่น้ำ”


รูปปั้นพญานาคบริเวณทางเข้าปากถ้ำ


เจมส์ จิรพงศ์ นิลแสง (2565) อายุ 25 ปี เล่าว่า “ประวัติถ้ำปาฏิหาริย์ กล่าวถึง ‘มหาเจดีทองคำ’ และประวัติหลวงพ่อเที่ยวเมืองพญานาค ในถ้ำมีสมบัติ แต่ไม่บอกว่ามีอะไร เคยส่องเข้ามามองเห็นเป็นคนเดิน ความรู้สึกว่ามีพระอยู่ด้วยแต่มารู้ภายหลังว่าไม่มีใครเข้ามาได้ เห็นแสงขาวเคลื่อนที่ ก่อนจะหายไป ครั้งนั้นแค่มาบอกกล่าวว่าจะมาถวายพระ ไหว้พระ พระธาตุ และพญานาค คือ ชั้นเทวดา ชั้นสถานที่ และชั้นพญานาค เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ที่ต้องเคารพ ต้องกราบไหว้ และที่นี่เป็นบ้านเมืองของสิ่งที่มองไม่เห็น และเล่าอีกว่า วัดพระมหาเจดีย์ดีทองคำ เป็นวัดที่เงียบ ไม่มีพระ ข้างบนเป็นท้องน้ำโขง เดินไปอีกจะมีถ้ำ มีปูฤษีพันปี หลวงพ่อกำลังจะลงไปแต่ถูกห้ามไว้ เพราะพญานาคปล่อยพิษไว้ ไม่มีสิทธิ์ออกมา คนที่ลงมาได้จะไปถึงแค่วัดมหาเจดีย์ทองคำเท่านั้น พื้นที่นี้เป็นงูดำใหญ่ ข้างล่างมีจระเข้หิน ดอกบัวหิน สระดอกบัวหลากหลายสี ได้เดินบ้างได้ดำน้ำบ้าง” นอกจากนั้น ผู้วิจัยเดินเข้าไปในถ้ำพบว่ามีความเย็น สงบ และมืด ภายในถ้ำเต็มไปด้วยพระพุทธรูป และมีกลุ่มคนอยู่ภายในประมาณ 10 คน คือ กลุ่มคนใส่ชุดขาวกำลังนั่งพร้อมกับมีบทสวดบางอย่างเพื่อขอพรหรือบอกกล่าวต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ขณะที่คนอีกกลุ่มหนึ่งกำลังพยายามตั้งเงินเหรียญเพื่อขอพรและโชคลาภ และมีผู้ชายอีก 2 คน กำลังเดินสังเกตดูรอบ ๆ ถ้ำอย่างไม่เร่งรีบ 


คนที่เดินทางมาที่วัดถ้ำปาฏิหาริย์มีเป้าหมายแตกต่างกัน


เชิงสัญลักษณ์ (Symbolic)

พญานาควัดถ้ำปาฏิหาริย์ เป็นพญานาคหน้าสีทองผสมกับสีเขียวเข้มและแดงเข้ม มี 7 เศียร การจัดวางเหมือนกำลังเลื้อยออกมาจากถ้ำมืดและเฝ้าอยู่หน้าปากถ้ำ บริเวณหน้าปากถ้ำมีป้ายเขียนว่า “ถ้ำมืด” เป็นพระนามเดิมแต่โบราณ ปี พ.ศ.2528 ขนานพระนามเป็น “ถ้ำปาฏิหาริย์” แห่งเมืองลับแล คุณย่าเจรจา มาลี เป็นผู้ประจำอยู่ที่วัดแห่งนี้ ผู้วิจัยได้สนทนากับ พี่ฉี (2565) อายุ 36 ปี หลานสาวของคุณย่าเจรจา มาลี (เดินทางมาที่ถ้ำปี พ.ศ. 2525 และเปิดถ้ำปี พ.ศ.2528) กล่าวว่า "ความรู้กับศรัทธาไม่เหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้เอามาหักล้างกัน มันไม่ใช่แค่เดือนสองเดือน แต่ระยะเวลาจะถูกพิสูจน์ด้วยระยะเวลา 10 ปี พอนึกย้อนมาหลังๆ ไม่มีข้อสงสัย" พี่ฉี เล่าฉายให้เห็นว่า วัดแห่งนี้สร้างขึ้นจากความเชื่อว่ามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อาศัยอยู่ในมิติของเมืองลับแลเรียกว่า “คนทิพย์” และ “พญานาค” ทุกวันพระและวันศีล ผู้คนในเมืองลับแลจะถือปฏิบัติธรรมบริเวณนี้ ดังนั้น การเข้าเยี่ยมชมถ้ำและพื้นที่ต่าง ๆ จึงมีเวลาจำกัดเพื่อเปิดพื้นที่ให้กับผู้คนในเมืองลับแล เจรจา มาลี กล่าวว่า “ที่นี่เป็นเมืองลับแลมีทางลงไปถึงเมืองบาดาล ครั้งหนึ่งขึ้นมาจากถ้ำเห็นคนประมาณ 30 คนหุงข้าวกันอยู่ในป่า แต่พอไปดูจริงๆ ไม่มีคน โดยคนที่เห็นทุกคนมีแต่คนนุ่งขาว”


ผ้าที่มัดไว้เป็นที่อยู่ของคนเมืองลับแล


วัดถ้ำปาฏิหาริย์ มีนักท่องเที่ยว นักแสวงบุญ นักเสี่ยงโชค และคนทั่วไปเดินทางมาที่นี่อย่างไม่ขาดสาย ส่วนหนึ่งเนื่องจากเป็นเส้นทางเดียวกันกับเส้นทางขึ้นไปจุดชมวิวผาชะนะไดในเขตอุทยานแห่งชาติผาแต้ม ใช้เวลาไม่มากก็สามาระเยี่ยมชมวัดและถ้ำได้ ดังนั้น จึงพบเครื่องเซ่นไหว้ต่างๆ ที่คนใช้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์และพญานาค เช่น ดอกไม้ ธูป เทียน ขัน 5 พานหมากเบ็ง และเงิน เป็นต้น 


ดอกไม้และเทียนที่วางอยู่ในถ้ำและคนที่กำลังตั้งเหรียญเพื่อขอโชคลาภ


คาถา บทสวด และคำบูชา

โดยทั่วไปจะมีกลุ่มคนใส่ชุดขาวทั้งเป็นผู้ชายและผู้หญิงมาสวดมนต์อยู่ในถ้ำ ซึ่งผู้วิจัยทำการสอบถามภายหลังทราบว่าทั้ง 4 คน รู้จักกันและเดินทางมาจากตัวจังหวัดอุบลราชธานีด้วยความศรัทธาและตั้งใจมาอยู่ที่นี่เพื่อถือศีล จิรพงศ์ นิลแสง (2565) กล่าวถึงบทสวดที่จบไปว่าเป็นบทสวดมนต์ไหว้พระทั่วไป แต่มีส่วนที่เพิ่มเติมคือการตั้งจิตถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ โดยการกล่าวกับสิ่งศักดิ์สิทธิที่สถิตอยู่ถ้ำแห่งนี้ว่า “มื้อนี้ผู้ข้าทั้งหลายถือศีล มาบอกกล่าวว่า มา 3 วัน 3 คืน ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นพยาน ว่ามาแล้วและไม่เสียสัจจะ”

เครื่องเซ่นไหว้ที่วางอยู่ภายในถ้ำมืด


Tags
ความรัก
การเงิน
การงาน
โชคลาภ
สุขภาพ
ความอุดมสมบูรณ์

... สถานที่

...

วัดถ้ำปาฏิหาริย์

  ที่มีถ้ำอยู่ภายในวัด ตั้งอยู่ใกล้ๆกับเขตป่าดงนาทาม ในเขตอำเภอโขงเจียม วัดถ้ำปาฏิหาริย์ห่างจาก เทศบาลอำเภอเมืองอุบลราชธานี ประมาณ 130 กิโลเมตร

อ่าน

...
กษมา ดอกดวง
(หัวหน้าโครงการ) Tel. 0942634259 [email protected]
...
ปิยวัฒน์ อัฒจักร
(ผู้ร่วมวิจัย)
...
สิริวรัญญา เลิศสกุลรุ่งเรือง
(ผู้ร่วมวิจัย)
...
ดร.บุญมี โททำ
(ผู้ร่วมวิจัย)
...
พงษ์เทพ บุญกล้า
(ผู้ช่วยภาคสนาม)
...
สถานบันวิจัยและพัฒนา
มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี Facebook