เรื่องราวของ พญานาคมังกร อยู่ที่ถ้ำศิลาอาสน์ บ้านเวินบึก เป็นชุมชนชาติพันธุ์บรู ชนดั้งเดิมที่อาศัยในพื้นที่แถบป่าเขาสูงตลอดแนวลุ่มแม่น้ำโขงตอนล่าง ชาวบรูดั้งเดิมมีความเชื่อเรื่องผีและธรรมชาติอย่างเข้มข้น ภายหลังการอพยพและการประกาศแนวเขตแดนแผนที่และรัฐชาติ ชาวบรูได้อาศัยอยู่และปรับตัวทางด้านสังคม วัฒนธรรมกับชาติพันธุ์ลาว และรับเอาความเชื่อพุทธศาสนาแบบไทยเข้ามาเป็นส่วนหนึ่ง ภายหลังมีพระเข้ามาบุกเบิกพื้นที่ปฏิบัติธรรม “ถ้ำศิลาอาศน์” เรื่องราวของพญานาคประจำที่แห่งนี้ถูกเล่าเชื่อมโยงกับเมืองผีที่เรียกว่า เมืองบังบด หรือ เมืองลับแล ดินแดนลี้ลับของเหล่าคนทิพย์ที่อาศัยอยู่ในโลกหนึ่งและอาศัยทรัพยากรป่าไม้และธรรมชาติร่วมกันกับมนุษย์ ความน่าสนใจของสถถานที่แห่งนี้คือการผสมผสานระหว่างความเชื่อเรื่อง มังกร กับ พญานาค สะท้อนผ่านการปั้นรูปพญานาคคลายกับมังกร
ถ้ำศิลาอาสน์ ดินแดนธรรมชาติอุดมสมบูรณ์อยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขง ความเชื่อเกี่ยวกับเมืองบังบดหรือ เมืองลับแล ถูกยกย่องให้เป็นพื้นที่ที่ชาวบ้านให้ความเคารพและไม่รุกล้ำ พื้นที่แห่งนี้มีพระธุดงค์หลายท่านเดินทางมาอาศัยอยู่ด้วยความศรัทธา ชาวบ้านเชื่อว่าบริเวณนี้มีปู่พญานาค นามว่า “ปู่มังกร” หรือ พญานาคมังกร เป็นพญานาครักษาพื้นที่ ความโดดเด่นแปลกตา คือ การปั้นพญานาครูปร่างคลายมังกรตามชื่อพระ ผู้คนที่เดินทางมาที่แห่งนี้เชื่อว่ามีปู่มังกรเฝ้ารักษา คนที่พบเห็นพญานาคปู่มังกรได้จะต้องมีบุญบารนมี และไม่ลบหลู่ในทางเสื่อมเสีย
บรรยากาศธรรมชาติที่วัดถ้ำศิลาอาสน์สร้างความสงบและเป็นที่น่าตื่นตาตื่นใจเหมือนเมืองลับแห่งบังบด แหล่งพลังบรรจุความศรัทธาและความเชื่อของชาวบ้าน เชื่อว่าวัดถ้ำศิลาอาสน์เป็นจุดประสงค์สำคัญสำหรับผู้ที่ต้องการปฏิบัติธรรมและมีความศรัทธา สัญลักษณ์ของพญานาคและการประดิษฐ์เป็นพญานาคสีเขียว ทำให้ผู้คนที่มาเยือนได้รับความเชื่อมั่นและความเป็นกลางในการปฏิบัติธรรม คนที่สนใจสามารถเดินทางไปในเส้นทางเลียบแม่น้ำโขงถึงบ้านเวินบึกหมู่บ้านสุดท้ายของดินแดนประเทศไทย
เมื่อเดินเข้าไปจะพบกับห้องโถงถ้ำภายในเก็บเครื่องรางศักดิ์สิทธิ์ เช่น พระ อาวุธมีดโบราณ ลูกแก้วพญานาคที่ได้รับการตกทอดมาจากพระรุ่นเก่าตั้งแต่สมัยสงครามโลก รวมทั้งญาติโยมที่ศรัทธานำมาถวายไว้ที่วัด หลวงปู่มังกร กล่าวว่า “พื้นที่เดิมบริเวณนี้เป็นที่ปฏิบัติธรรมของหลวงปู่คำคะนิง เมื่อนั่งสมาธิได้นิมิตเห็นว่าพื้นที่บริเวณนี้มีปล่องหลุมขนาดใหญ่เป็นที่อยู่ของพญานาค พระสมัยก่อนอาศัยน้ำในโบกหรือหลุมหินใหญ่แห่งนี้ ครั้งหนึ่งได้นั่งสมาธิได้ยินเสียงร้องครางดังของพญานาคสะเทือนขึ้นมาจากหลุม เสียงดังสร้างความตื่นตระหนกตกใจ” สถานที่แห่งนี้เเต็มไปด้วยความเชื่อและเรื่องราวของพญานาค มีการปั้นพญานาคสีเขียวทองเกี้ยวเสาขึ้นมาจากน้ำในโบกลึกเป็นสีเขียวมรกตเรียกว่า “วังน้ำ” ที่ไม่มีใครกล้าลงไป น้ำไหลจากโขดหินตต่างๆ มารวมกันที่โบกก่อนจะไหลลงไปสู่แม่น้ำโขง การบูชาและการอุทิศที่วัดถ้ำศิลาอาสน์ ที่ได้รับการผสมผสานจากศาสนาพุทธศาสนาและความเชื่อพญานานาค
การเดินทางเข้ามาของผู้คนที่ศรัทธาผสมผสานระหว่างความเชื่อเรื่องพุทธศาสนา กับ พญานาค นักแสวงธรรมและนักท่องเที่ยวทมี่ชื่นชอบพญานาคนิยมเดินทางมาไหว้ขอพรต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องโชคลาภ รวมทั้งนำน้ำที่โบก หรือวังน้ำ ชำระล้างหน้าพรมตัวสร้างสิริมงคล ผู้คนที่เดินทางมาไหว้ขอพรมักใช้พานดอกไม้ใบตอง ต้นเงิน รวมทั้งการแสดงร่ายรำบูชาพญานาค
ตระกูลเอราปักถะ